โปรแกรมที่จำเป็นในสายงานสถาปัตย์

ความสำคัญของโปรแกรมในการออกแบบสถาปัตยกรรม

การทำงานสถาปัตย์นั้นมีรายละเอียดที่มากและมีความซับซ้อนสูง การนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยทำงานจะช่วยร่นระยะเวลาในหลายๆขั้นตอนลงไปเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น การเขียนแบบที่มีรายละเอียดมากหลายๆแผ่นที่คล้ายกัน การขึ้นหุ่นจำลองสามมิติที่ซับซ้อนเกินกว่ามนุษย์จะนึกได้ การถอดปริมาณวัสดุและพื้นที่ของอาคารต่างๆ ล้วนสามารถทำได้โดยง่ายผ่านโปรเเกรมทางการออกแบบเเทบทั้งสิ้น โดยทั่วไปเเล้วนักศึกษาสถาปัตย์มักจะเริ่มได้ใช้คอมพิวเตอร์เข้ามามีส่วนช่วยในการออกแบบอาคารเมื่อช่วงย่างเข้าสู่ปี 2 นั่นเอง ดังนั้นการเข้าใจชนิดการทำงานของโปรแกรมช่วยออกแบบชนิดต่างๆอย่างดี จะช่วยให้ผู้ออกแบบเลือกใช้โปรเเกรมได้ตรงกับภาระงานที่ทำและเกิดประโยชน์ได้มากที่สุด โดย โปรเเกรมที่เกี่ยวข้องกับงานออกแบบสถาปัตยกรรม สามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 4 กลุ่มดังนี้

3d - Time Machine Studio
3d - Time Machine Studio
e5a - Time Machine Studio

โปรแกรมทำงานเขียนแบบ

เป็นโปรเเกรมที่เน้นการทำงานในเชิง 2 มิติ โดยมีหน้าที่หลักในการเข้ามาทำหน้าที่แทนโต๊ะเขียนแบบนั่นเอง โปรเเกรมเหล่านี้มักมีจุดเด่นความสามารถในการเขียนเส้นหลากหลายความหนา และ สามารถเขียนเส้น 2 มิติ ได้สะดวกหลากหลายวิธีการ มักเหมาะสมในการนำมาใช้ทำงานเขียนแบบก่อสร้าง หรือ การทำงานเชิงลวดลาย 2 มิติ โปรเเกรมที่นิยมใช้กันอย่างเเเพร่หลายเเละถือเป็นโปรเเกรมพื้นฐานสำคัญที่สถาปนิกทุกคนต้องรู้จักคือ Autodesk AutoCAD นั่นเอง

e5a - Time Machine Studio

โปรแกรมทำงานสามมิติ

เป็นโปรแกรมที่ช่วยขึ้นหุ่นจำลองสามมิติแทนการตัดหุ่นจำลองจริงได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ออกแบบสามารถเข้าใจถึงมิติของที่ว่างเเละรายละเอียดต่างๆที่อาจตกหล่นไปในการมองเเบบสองมิติ โปรเเกรมกลุ่มนี้เน้นการทำงานที่เป็น 3 มิติที่มีความซับซ้อน ทำให้มีการใช้ RAM เเละ CPU มาก โปรเเกรมที่นิยมใช้กันส่วนมากสามารถแบ่งออกเป็นสองโปรแกรม ได้เเก่ 1. SketchUp ซึ่งมีจุดเด่นในการใช้งานที่ง่ายไม่ซับซ้อนเเละหลากหลาย และ 2. Rhino ซึ่งเหมาะเเก่การทำงานที่มีรูปทรงซับซ้อนและมีพื้นผิวโค้งงอที่มากกว่า ทั้งสองโปรเเกรมมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกัน การฝึกฝนให้เข้าใจพื้นฐานของทั้งสองโปรเเกรมจะทำให้ผู้ออกแบบสามารถประยุกต์ใช้งานได้อย่างครอบคลุมและเหมาะสม

โปรแกรมทำภาพเสมือนจริง

เป็นโปรเเกรมที่ช่วยสร้างภาพเสมือนจริงของหุ่นจำลองสามมิติที่ผู้ออกแบบได้ออกแแบบ โดยจะใช้ความสามารถของการ์ดจอสูงพอสมควร โปรเเกรมในกลุ่มนี้ปัจจุบันมีหลายรูปแแบบไม่ว่าจะเป็น Vray หรือ Enscape ที่จะเป็น plug-in เสริมอยู่ในโปรเเกรม SketchUp เเละ Rhino เลยโดยตรง หรือจะเป็นโปรเเกรมที่นำหุ่นจำลองที่เราทำไว้แยกออกมาทำงานต่างหากอย่าง Lumion และ 3DS max โดยโปรเเกรมเเต่ละตัวก็มีข้อดีเเตกต่างกันออกไป หากต้องการทำงานในเวลาอันสั้นไม่ต้องการการเเต่งรูปเพิ่มเติมที่มาก Lumion และ Enscape จะเหมาะสมเป็นอย่างมาก ในทางกลับกัน หากต้องการภาพที่มีเหมือนจริงสูงเเละมีเวลาในการปรับเเต่งภาพเพิ่มเติมทาง Photoshop โปรเเกรม Vray เเละ 3DS max ถือเป็นเเนวทางที่เหมาะสมกว่า

โปรแกรมจำพวก BIM 

เป็นโปรเเกรมที่เหมาะสมในการใช้ทำงานหลังจากที่งานผ่านขั้นตอนการออกแแบบเเล้วเนื่องจากมีการทำงานที่ยืดหยุ่นน้อยกว่าโปรเเกรมทั่วไปสายงานต่างๆ เเต่จะมีความคล่องตัวเป็นอย่างมากในการจำแนกเเละตรวจสอบข้อมูลต่างๆของโครงการ เช่นปริมาณพื้นที่ เเละปริมาณวัสดุต่างๆของอาคาร เป็นโปรเเกรมที่รวบรวมเอาทั้งการทำงาน สองมิติ สามมิติ เเละข้อมูลประกอบแบบมาไว้ด้วยกันในที่เดียว จึงสะดวกในการเชื่อมโยงข้อมูลในมิติต่างๆของอาคารเข้าด้วยกัน เหมาะเป็นอย่างมากในการนำมาใช้ทำงานเขียนอบบก่อสร้างที่มีการทำงานร่วมกันของผู้ออกแบบหลายภาคส่วน โปรเเกรม BIM ที่นิยมใช้ในปัจจุบันคือ Autodesk Revit นั่นเอง

revit - Time Machine Studio
revit - Time Machine Studio
program - Time Machine Studio

การตั้งค่าคุ้กกี้

เราใช้คุ้กกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์อย่างดีที่สุดให้กับคุณ รวมถึงคุ้กกี้จำเป็นสำหรับดำเนินงานของเว็บไซต์ และเพื่อจัดการวัตถุประสงค์ทางการค้า รวมถึงคุ้กกี้อื่นๆ ที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางสถิติโดยไม่ระบุตัวตน สำหรับการตั้งค่าเว็บไซต์ให้มีความสะดวกสบายมากขึ้นหรือสำหรับการแสดงเนื้อหาส่วนบุคคล คุณมีอิสระในการตัดสินใจเลือกหมวดหมู่ที่คุณต้องการ โปรดทราบว่าฟังก์ชั่นของเว็บไซต์บางส่วนอาจทำงานไม่เต็มรูปแบบซึ่งขึ้นอยู่กับการตั้งค่าคุ้กกี้ของคุณ คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

  • จำเป็น

    คุ้กกี้เหล่านี้มีความจำเป็นต่อการใช้งานฟังก์ชั่นหลักของเว็บไซต์นี้ เช่น ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย คุ้กกี้เหล่านี้เราสามารถตรวจสอบได้ หากคุณต้องการที่จะอยู่ในระบบเพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงบริการของเราได้อย่างรวดเร็วหลังจากเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราแล้ว

  • สถิติ

    เพื่อการปรับปรุงเว็บไซต์ของเราอย่างต่อเนื่อง เราจึงมีการติดตามข้อมูลอย่างไม่ระบุตัวตนเพื่อวัตถุประสงค์ทางสถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล คุ้กกี้เหล่านี้ทำให้เราสามารถติดตามจำนวนการเข้าชมที่ส่งผลกระทบต่อหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ