เมื่อเริ่มทำ PORTFOLIO สถาปัตย์ และ การออกแบบ เราเชื่อว่าน้องๆจะเลือกงานที่เคยทำ. เช่น การวาด งานลงสี งานประกอบโมเดล มาใส่ใน PORTFOLIO ซึ่งสำหรับเรามองว่าเป็นวิธีที่ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งเราจะใช้โอกาสนี้อธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ดี
อย่างที่คณะออกแบบหลายที่แจ้งว่า คณะต้องการ PORTFOLIO งานศิลปะการออกแบบจากเรา ซึ่งเราต้องนำคำว่า “ศิลปะ” และคำว่า “การออกแบบ” มาตีความเพื่อทำให้เราสามารถตอบโจทย์ได้ตรงกับที่คณะต้องการ
ศิลปะ คืออะไร?
เราอธิบายง่ายๆว่า ถ้าให้น้องๆเลือกศิลปินไทยหนึ่งคน น้องๆอาจจะตอบว่าไม่รู้ หรือ ตอบคนที่เรารู้จัดในการวาดภาพเท่านั้น แต่ถ้าบอกว่า แสตมป์ หรือ เบิร์ด ธงชัย น้องๆคงอ๋อทันที และเราไม่เรียกคนกลุ่มนี้ว่านักดนตรี แต่เรียกว่า ศิลปิน ฉะนั้น ศิลปะไม่เคยถูกกำหนดว่าเราต้องวาดหรือระบายสี ฉะนั้นในทางกลับกัน วาดรูประบายสีก็ไม่ได้เป็นศิลปะเสมอไป
ศิลปะจะแสดงออกมาในรูปแบบของผลงานอะไรก็ได้ แต่เนื้อหาสำคัญคือมันจะต้องแสดงตัวตนของน้องๆ ว่าเราเป็นใคร มีความคิด ความเห็นอย่างไร ฉะนั้น เราต้องแสดงตัวตนให้ได้มากที่สุด
การออกแบบ คืออะไร ?
ส่วนการออกแบบ อธิบายอย่างง่าย มันคือการตอบโจทย์การแก้ปัญหาบางอย่าง ฉะนั้น การทำงานคือเราได้ตั้งคำถามกับบางอย่างที่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ และแก้อย่างตรงจุด ซึ่งก็คือการหาปัญหามาแก้ไขนั่นเอง
กระบวนการทำพอร์ตฟอลิโอการออกแบบ และ ศิลปะที่ดีควรเป็นอย่างไร
การทำผลงาน portfolio สถาปัตย์ / ออกแบบ ที่ดี ควรมีทำจากกระบวนการการออกแบบและศิลปะที่ถูกต้องเพื่อให้ผลงานมีการลงลึกให้มากที่สุด และนำจุดสำคัญออกมาเพื่อแก้ปัญหาหรือแสดงความเห็นให้ตรงจุด ซึ่งมีกระบวนการดังนี้
1. ASSUMPTION – สมมติฐานที่เกิดจากการตั้งคำถามกับตัวเองหรือสิ่งรอบตัว เพื่อนำมาคิดวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาหรือแสดงความคิดเห็น
2. RESEARCH – ข้อมูลที่นำมาศึกษาเพื่อเข้าใจกับสิ่งที่ตัวเองตั้งเป็นสมมติฐานมากขึ้น หาสิ่งที่เด่นหรือเป็นจุดสำคัญให้เจอเพื่อให้สิ่งเรื่องที่ตั้งไว้ได้อย่างชัดเจน
2. CONCEPT – สิ่งที่ต้องการทำที่ได้ไตร่ตรองมาจาก RESEARCH4. FINAL WORK – ทางเลือกทางหนึ่งของผลลัพธ์จากการตั้ง CONCEPT ขึ้นมาผลงานสุดท้ายที่ได้ทำ เพื่อแสดงความเห็น หรือ การแก้ปัญหาตาม CONCEPT ที่เลือก และอ้างอิงข้อมูลตาม RESEARCH
เมื่อทำให้ พอร์ตสถาปัตย์ หรือ การออกแบบของเรามีกระบวนการคิดเป็นขั้นตอน ผู้ตรวจ พอร์ตฟอลิโอ จะเข้าใจงานเราได้ง่ายมากขึ้น และเข้าใจสิ่งที่เราต้องการสื่อ และผลสุดท้ายคือผู้ตรวจจะสามารถประเมิณเป็นคะแนนได้นั่นเอง
ตัวอย่างงานผลงาน พอร์ตฟอลิโอการออกแบบ
ASSUMPTION –
ทำอย่างไรคนที่จะทิ้งขยะได้ถูกต้องตามประเภทของขยะ ขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป ขยะย่อยสลาย และขยะอันตราย
RESEARCH –
1. ปัจจุบันมีการจำแนกด้วยสี แต่ตัวสีเองกลับทำให้สับสน เช่น สีเขียวที่ไม่ได้หมายถึงรีไซเคิลแต่หมายถึงขยะย่อยสลาย ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการสื่อสารที่ยังเข้าไม่ถึงคนไทย
2. ศึกษาต่อว่าแล้วโครงการ แคมเปญไหนได้ผลต่อคนไทยในอดีต และได้ค้นพบว่าตาวิเศษคือแคมเปญที่ประสบความสำเร็จ
3. ตาวิเศษ เป็นโฆษณายุคแรกที่ใช้การ์ตูนในการสื่อสารและกระจายการสื่อสารลงในโทรทัศน์เป็นหลัก ซึ่งคนในยุคนั้นรับสารจากโทรทัศน์เป็นหลัก และการใช้การ์ตูนนั้นทำเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเด็ก โดยวางแผนไว้ว่าการสื่อสารจะสื่อที่เยาวชนให้ทิ้งขยะจนคุ้นเคย และเมื่อคุ้นเคย ผู้ใหญ่จะทำตาม
4. การสื่อสารได้ผลเพราะเลือกพื้นที่สื่อสารได้ดี และตอบโจทย์กับเด็กเนื่องจากสมัยนั้นการดูการ์ตูนเป็นเรื่องที่เกิดได้ยาก เด็กจึงสนใจโฆษณาเป็นพิเศษและทำตามตัวละครอย่างดี
5. หากต้องการให้คนเข้าถึงได้ดีที่สุดจะมีปัจจัยหลัก 2 ข้อ พื้นที่ในการสื่อสารที่เหมาะสม และ การเลือกประเภทของผู้รับสารที่เหมาะสม
CONCEPT –
ต้องการออกแบบการสื่อสารการทิ้งขยะแบบจำแนกในรูปแบบใหม่เพื่อเข้าถึงคนที่สนใจสิ่งแวดล้อม เข้าถึงมากขึ้น โดยเลือกคนรุ่นใหม่ โดยเข้าถึงได้ด้วย Social Media ที่เป็นพื้นที่สื่อที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
FINAL WORK –
– ทำ Character Design 4 ตัวที่ตอบโจทย์ตามการจำแนก โดยแต่ละตัวละครได้แรงบันดาลใจจากของที่ควรทิ้งในถังนั้นๆ
– ออกแบบ Exhibition ให้กับตัวละคนนี้โดยใช้ ART ในการสื่อเรื่องราว เพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้าชมและให้ความสนใจและเกิดการถ่ายลง Social Media
– Character Design 4 ตัวนี้จะเป็นสัญลักษณ์แทนสีถังขยะ เพื่อลงต้นทุนการผลิตถึงใหม่ โดยการใช้สติกเกอร์ตัวละคนไปแปะแทน
จากตัวอย่างงานข้างบน เชื่อว่าน้องๆน่าจะเห็นแล้วใช่ไหมครับ ว่า พอร์ตฟอลิโอการออกแบบที่มีการทำ RESEARCH ชัดเจน สำคัญแค่ไหน เพราะถ้าหากงานด้านบนนั้นเริ่มทำงานเลยโดยไม่ได้ทำ RESEARCH จะไม่มีทางตอบโจทย์ได้ตรงประเด็นเลย หากงานด้านบนไม่ได้ดูงานตาวิเศษ เค้าก็จะไม่สามารถพลิกแพลงการออกแบบให้เวิคได้ และถ้าลอกตามอย่างไม่วิเคราะห์ก็จะเป็นงานการ์ตูนในโทรทัศน์แบบเดิมที่ไม่มีทางตอบโจทย์กับปัจจุบัน นี่แหละความสนุกของโรงเรียนศิลปะ และการออกแบบนะครับ เราจะได้ทำผลงานที่ตอบโจทย์จริงๆ และเมื่อทำสำเร็จ ลึกๆเราจะภูมิใจกับงานที่ตั้งใจทำที่รู้ว่าไม่ได้ทำลวกๆ และไม่แน่ งานอาจจะดีมากพอในการยื่นประกวดด้วยครับ